อาหารฟาสต์ฟู้ดมีผลเสียต่อร่างกายอย่างไรบ้าง

อาหารจานด่วนสามารถก่อให้เกิดโรคต่างๆ ได้ดังนี้

โรคความดันโลหิตสูง เป็นโรคที่พบบ่อยที่สุดโรคหนึ่งในปัจจุบัน ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ส่งเสริมให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูงก็คืออาหารประเภทโซเดียมปกติความต้องการโซเดียมอยู่ระหว่าง 1,100 – 3,000 มิลลิกรัมต่อวัน แต่ในอาหารจานด่วนมีปริมาณโซเดียมค่อนข้างสูง เช่น ถ้าบริโภคพิชซ่า 1 ชิ้น จะได้รับโซเดียมถึง 1,200 มิลลิกรัมและเมื่อใส่เครื่องปรุงรส เช่น ชีส ซอส ก็จะได้รับโซเดียมมากขึ้นการบริโภคเกลือโซเดียมมากเกินไปจะเป็นอันตรายต่อหัวใจและไต ถ้าบริโภคเกลือโซเดียมมากกว่า 14 กรัมต่อวันก็จะเพิ่มความดันเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคความดันโลหิตสูงและโรคความดันโลหิตสูงก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการทำลายของหลอดเลือดแดง ซึ่งนําไปสู่การเกิดภาวะหลอดเลือดแดงแข็งตัว (Atherosclerosis) อีกทั้งเกลือโซเดียมเป็นสาเหตุของการเกิดภาวะโรคบวมน้ำ (Edema) เนื่องจากเกลือโซเดียมมีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำ ถ้าความดันโลหิตสูงมันจะส่งผลเสียอย่างชัดเจนเกี่ยวกับระบบไหลเวียนเลือด สังเกตง่ายๆว่าควย ไม่ค่อยแข็งสู้งาน เนื่องจากความดันที่สูงการหมุนเวียนเลือดทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร การแข็งตัวของควย เลยมีปัญหาเสมอ นอกจากนี้บางคนที่ควย เป็นปกติ ก็ยังส่งผลเสียเรื่องเหนื่อยง่าย หายใจไม่เต็มปอด

โรคอ้วน อาจเกิดจากนิสัยการบริโภคที่ไม่ถูกต้อง การบริโภคอาหารที่มากเกินไปโดยเฉพาะอาหารที่ให้พลังงานสูงทำให้เกิดการสะสมของคาร์โบไฮเดรตและไขมันในร่างกายก่อให้เกิดโรคอ้วน ถ้าเป็นผู้หญิงไขมันเหล่านี้อาจจะทำให้หน้าอกใหญ่ แต่ถ้าเป็นผู้ชาย ไขมันหน้าท้องมันจะทำให้ควยดูเล็กกว่าที่มันเป็น ถ้าผู้หญิงมาเจอควยแบบนี้ เขาคงคิดแล้วว่าสมรรถภาพไม่เต็มที่ อาจจะสั้นไปจนมอบความสุขให้เธอไม่ได้ และนี่จึงเป็นอีกเหตุผลที่คนผอมมักจะถูกชื่นชมว่ามีควยใหญ่

โรคมะเร็ง อาหารจานด่วนมักมีเส้นใยอาหารอยู่ในปริมาณที่ค่อนข้างต่ำ หากบริโภคเป็นประจำย่อมมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งลำไส้ใหญ่ผู้ที่บริโภคอาหารเส้นใยน้อยปริมาณของกรดน้ำดีที่ปนออกมากับอุจจาระจะมีจำนวนน้อยกว่าพวกที่บริโภคอาหารเส้นใยสูงแสดงให้เห็นว่ากรดน้ำดีนี้ได้ถูกทำลายและเปลี่ยนเป็นสารก่อมะเร็งแล้ว ทั้งนี้เนื่องจากว่าลำไส้ใหญ่ของกลุ่มที่กินอาหารเส้นใยสูงจะมีเชื้อแบคทีเรียสเตรปโตคอคคัส (Streptococcus) และเชื้อแบคทีเรียแลคโตบาซิลลัส (Lactobacillus) มากกวาพวกอื่นๆ ซึ่งแบคทีเรียพวกนี้จะไม่ทำลายน้ำดี น้ำดีจะคงอยู่ในรูปเดิมไม่เปลี่ยนแปลงเป็นสารที่เป็นพิษต่อร่างกายสำหรับพวกที่บริโภคอาหารเส้นใยค่ากรดน้ำดีใดถูกเปลี่ยนเป็นสารที่เป็นพิษ ซึ่งสะสมอยู่ในลำไส้นานเท่าใดยิ่งทำให้เพิ่มโอกาสที่จะเป็นโรคมากขึ้นเท่านั้น

 

Author: Krystyna