เหตุผลที่ร่างกายเราขาดความหวานไม่ได้

น้ำตาลคือ สารที่ให้ความหวานตามธรรมชาติชนิดหนึ่งมีกันอยู่หลายรูปแบบขึ้นอยู่กับร่างและลักษณะของน้ำตาลนั้นๆ เช่นน้ำตาลทราย น้ำตาลก้อน น้ำตาลกรวด น้ำตาลปี๊บ เป็นต้น แต่ในทางเคมีวิทยาศาสตร์โดยทั่วไปหมายถึงซูโครส หรือแซคคาไรด์ ไดแซ็กคาไรด์มีลักษณะเป็นผลึกของ แข็งมีสีขาว น้ำตาลจะเป็นสารเพิ่มความหวานที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายมากในอุตสาหกรรมการผลิตโดยเฉพาะอย่างยิ่งขนมหวาน และเครื่องดื่ม ก็อย่างที่เห็นในหนังโป๊จะมีการเอาของหวานเช่นน้ำเชื่อมหรืออมยิ้มเอามาเล่นเสียวๆในการทำรักกับระหว่างพระเอกกับนางเอกหนังโป๊ ผลิตมาจากต้นมะพร้าว อ้อย ต้นเมเปิ้ลน้ำตาลและหัวบีช ฯลฯ น้ำตาลมีองค์ประกอบทางเคมีแบบง่ายที่สุดคือโมโนแซคคาไรด์ เช่น กลูโคสเป็น ที่เก็บพลังงานที่ใช้ในกิจกรรมทางชีววิทยาของเซลล์ คำศัพท์ทางเทคนิคที่ใช้เรียกน้ำตาลมักจะลงท้ายด้วยคำว่า โอส เช่น กลูโคส
น้ำตาลหมายถึงสารประกอบคาร์โบไฮเดรตประเภทโมโนแซ็กคาไรด์และไดแซ็กคาไรด์ซึ่งจะมีรสหวานโดยมากได้มาจากต้นตาล อ้อย มะพร้าว หรือถ้าเป็นความหมายเฉพาะอย่างและทำด้วยอะไรก็จะเติมคำนั้นๆลงไปเช่นทำจากตาลก็จะเรียกว่าน้ำตาลโตนด ถ้าทำจากมะพร้าวก็จะเรียกว่าน้ำตาลมะพร้าว ถ้าทำเป็นงบก็จะเรียกว่าน้ำตาลงบ ถ้าทำจากอ้อยแต่ยังไม่ได้ทำให้เป็นน้ำตาลก็จะเรียกว่าน้ำตาลทรายดิบ ทำเป็นเม็ดๆ เหมือนทรายก็จะเรียกว่าน้ำตาลทราย ถ้าทำเป็นก้อนแข็งเหมือนกรวดก็จะเรียกว่าน้ำตาลกรวด ถ้าเคี่ยวให้มีลักษณะข้นๆเรียกว่าน้ำตาลองุ่น ถ้าเราหลอมเป็นน้ำตาลเป็นปึกก็จะเรียกว่าน้ำตาลปึก เมื่อได้น้ำตาลมาใหม่ๆ ยังไม่ได้ทำการเคี่ยวก็จะเรียกว่าน้ำตาลสด นำมาต้มให้สุกเดือดเรียกว่าน้ำตาลลวก ถ้าเรามาทิ้งไว้ระยะหนึ่งจนมีแอลกอฮอล์เกิดขึ้น กินแล้วเมาก็จะเรียกว่าน้ำตาลเมา น้ำตาลนี้จะให้พลังงานจากคาร์โบไฮเดรตซึ่งถือเป็นพลังงานที่จำเป็นต่อร่างกายอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมระหว่างวัน ตอนออกกำลังกาย หรือแม้แต่ตอนที่เราดูหนังโป๊ก็ต้องใช้พลังงานจากน้ำตาลนี่แหละ หลายครั้งที่เรารู้สึกอ่อนเพลียแต่พอได้กินอะไรที่หวานก็จะมีแรงสามารถดูหนังโป๊ได้ยาวๆทั้งคืน
ส่วนน้ำตาลในประเทศไทยผลิตได้จากพืชหลายชนิดตั้งแต่ ตาลโตนดมะพร้าว อ้อยและน้ำผึ้งจารวงผึ้ง ในปัจจุบันนั้นวงการอุตสาหกรรมทั่วโลกได้ผลิตน้ำตาลจากอ้อยและหัวผักกาดหวานหรือหัวบีทเป็นหลัก และในประเทศไทยนั้นผลิตน้ำตาลได้เป็นอันดับ 3 ของโลกรองลงมาจากอินเดียและบราซิล
ประเทศไทยในสมัยโบราณเราทำน้ำตาล ที่ได้จากน้ำหวานของต้นตาลจึงเรียกว่าสารให้ความหวานนี้ว่าน้ำตาลจนถึงปัจจุบัน แม้ว่ารูปแบบของสารที่ให้ความหวานนั้นจะเปลี่ยนไปทั้งในด้านวัตถุดิบและรูปลักษณ์ที่ทำมาจากอ้อย แต่ชื่อของน้ำตาลนั้นก็ยังคงถูกใช้อยู่ ในส่วนของชื่อน้ำตาลนั้นมีความหมายเดิมเพียงแต่เปลี่ยนเป็นชื่อน้ำตาลโตนดแทน

Author: Krystyna